### ตอนที่ 4 บุกต่างประเทศ ###
หลักจากเริ่มเข้าตลาดหลักทรัพย์ไม่นาน Starbucks ก็ทำการสำรวจตลาดเพื่อเปิดสาขานอกสหรัฐอเมริกา เพื่อขยายออกนอกทวีปอเมริกา -- Howard เริ่มดูตลาดว่าจะไปตลาดที่ประเทศไหนต่อ โดย Howard บินไปที่ยุโรปกับเอเชียเพื่อสำรวจตลาด
.
Howard ทำการตัดตลาดยุโรปออกไปก่อน เพราะประเทศยักษ์ใหญ่ในยุโรปส่วนใหญ่มีวัฒนธรรมกาแฟที่ค่อนข้างแข็งแรง กาแฟ Local และแบบที่มีสาขาก็มีเสริฟกาแฟมากมาย ที่รสชาติดีและ Authentic และเมื่อย้ายมาที่โซนเอเชีย ซึ่งมีประเทศเป้าหมายคือประเทศญี่ปุ่น
.
ญี่ปุ่นมีความน่าสนใจอย่างนึงคือ มีร้านกาแฟที่มีสาขา 2-3 พันสาขาอยู่แล้วในประเทศ ร้านนั่นชื่อ Doutor (ร้านจะสีเหลืองๆ ถ้าใครเห็นที่ญีปุ่น) ในร้านส่วนใหญ่จะมีพนักงานเงินเดือน มาดื่มกาแฟอ่านหนังสือพิมตอนเช้าพร้อมสูบบุหรี่ไปด้วย และมันก็ขายดีมากๆ ในญี่ปุ่น
.
แต่ Howard กลับได้รับแรงกดดันจากบอร์ดบริหารอย่างหนักจากการเสนอให้ Starbucks ตีตลาดญี่ปุ่น เพราะโอกาสในทวีปอเมริกาก็ยังมีอีกมาก แล้วทำไมต้องขยายตลาดไปในที่ที่เราไม่รู้จักและไม่ถนัดด้วย ซึ่งในการประชุมกับบอร์ดก็ยังตัดสินใจกับเรื่องการรุกตลาดญี่ปุ่น ทางบอร์ดเลยตัดสินใจจ้างที่ปรึกษา (Management Consult) มาศึกษาการเข้าตลาดญี่ปุ่น
.
ซึ่งแน่นอนที่ปรึกษาก็กลับมาด้วย Research หลายร้อยหน้า ที่ระบุว่า ไม่ควรเข้าไปในตลาดญี่ปุ่น เพราะค่าเช่าที่ที่พุ่งสูง และนโยบายของ Starbucks ที่ไม่ให้คนสูบบุหรี่ในร้าน ซึ่งผลสุดท้าย Starbucks ก็ยังไม่ได้รุกตลาดญี่ปุ่น
.
ในช่วงเวลาถัดมาไม่นานมีคนญี่ปุ่นติดต่อมาที่ Starbucks พอดี เพื่อเสนอให้ Starbucks มาเปิดสาขาที่ญี่ปุ่น โชคดันเข้าข้าง Howard ทำให้ Starbucks เปิดสาขาที่ญี่ปุ่นแบบ Joint Venture ที่เปิดร่วมกับบริษํท Sazaby League ที่เป็นธุรกิจ Lifestlye ที่ให้บริการทั้ง Furniture เครื่องประเดีบ และ คาเฟ่ชา
.
งานเปิดตัว Starbucks ที่ญี่ปุ่นสาขาแรก เกิดขึ้นในเดือนสิงหา ซึ่งเวลานั้นเป็นฤดูร้อนของญี่ปุ่น ญี่ปุ่นฤดูร้อนอากาศ 35 องศา และอากาศก็ชื้นอย่างมาก (ให้นึกสภาพที่ช่วงเวลาที่การ์ตูนมังงะเด็กจะชอบไปจับจั๊กจั่นหน้าร้อน) ในวันนั้น Howard กังวลอย่างหนักว่างานจะเปิดตัวได้ไม่ดี และไม่มีคนใช้บริการ เพราะสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย และยังมีการแจ้งจากทีมงานว่าจะมีสำนักข่าว CNN มาถ่ายทอดสดการเปิดงานอีกด้วย
.
เช้าวันงานเปิดตัว Howard ไปที่สาขาแรกที่ Ginza ตั้งแต่ช่วง 6 โมงเช้าเพื่อไปเตรียมตัวเปิดงาน ผลปรากฎว่าที่งานมีคนยืนรอต่อคิวเข้า Starbucks ตั้งแต่เช้ามืดเกือบ 200 คน และคนแรกที่มาคือมานอนรอหน้าสาขา ตั้งแต่เมื่อวานเพื่อรอเข้า Starbucks เป็นคนแรกของประเทศ เมื่อตัดริบบิ้นเพื่อเปิดงานเสร็จ คนที่ยืนรอคนแรกซึ่งเป็นนักศึกษามหาลัยวิ่งเข้าไปในร้านด้วยความรวดเร็วและสั่ง "Double Tall Latte"
.
การเปิดตัวสาขาแรกที่ญี่ปุ่นได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลาย ภายในหนึ่งเดือน คนทั่วโตเกียวเดินไปมาพร้อมถือแก้ว Starbucks และประเทศญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีจำนวนสาขา Starbucks มากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจากอเมริกา และจีน จากการที่คิดว่าคนญี่ปุ่นจะไม่ดื่มกาแฟที่ Starbucks เพราะไม่มีที่ให้สูบบุหรี่ กลับพบว่า Starbucks ที่ญี่ปุ่นมีลูกค้านอกจากผู้ชายวัยทำงาน แต่มีกลุ่มลูกค้าผู้หญิง แม่บ้าน เด็กนักเรียน นักศึกษา ครอบครัวเข้ามาที่ร้าน Starbucks ไม่ขาดสาย และ Starbucks ที่ญี่ปุ่นนับเป็นการตัดสินใจเข้าตลาดต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จที่สุดตั้งแต่ Starbucks เคยมีมา