Starbucks, Acquired Podcast Ep.1

Starbucks, Acquired Podcast Ep.1

Tags
Catagory
Format
Publish
Published

ไปฟัง Podcast อันนึงมา ชื่อ Acquired (ดีมากๆ แนะนำ และจะทยอยฟังตอนอื่นด้วย) ตอนที่ฟังเป็นเรื่องราวของ Howard Schultz กับ Starbucks ที่ฟังแล้วได้แง่คิดในมุมของการเป็นเจ้าของธุรกิจ การเริ่มต้นมองหาโอกาส และการบริหารหลายเรื่อง เลยอยากเอามาแชร์ แต่เนื่องจาก Podcast มันยาวมากกก เลยจะแบ่งหลายตอนหน่อย คิดว่าจะมี 3-4 ตอน เริ่มที่ตอนแรกกันก่อน

  • ---จุดเริ่มต้นของ Starbucks และการเข้ามาของ Howard Schultz-----

จุดเริ่มต้นสตาบัคมาจากผู้บริหาร 3 คน คือ Jerry Baldwin, Zev Siegel และ Gordon Bowker ในปี 1971 ที่ Pike Place Market รัฐ Seattle ในช่วงนั้นตลาดร้านกาแฟแทบยังไม่เป็นที่รู้จัก และร้านกาแฟส่วนใหญ่ในสหรัฐเสริฟแต่กาแฟดำแบบ Robusta ที่เน้นเฉพาะความเข้มข้นของ Caffeine และโดยกาแฟแบบนี้เป็นที่นิยมจากช่วงสงครามที่กาแฟ Robusta มักนิยมใช้เป็นเครื่องดื่มติดตัวของทหารระหว่างการทำสงคราม

Howard Schultz เป็นพนักงานขายของ Xerox บริษัทขายเทคโนโลยีด้านสิ่งพิมพ์ในขณะนั้น (ตอนนั้นบริษัท Xerox ใหญ่มาก ทรงน่าจะแนวๆ Microsoft ในปัจจุบัน) ในขณะที่พยายามทำยอดขายอย่างหนัก และได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่กลับได้รับการประเมินผลงานไม่ดีเท่าที่คาดหวัง ทำให้ Howard ตัดสินใจหางานใหม่

ในช่วงเวลานั้น Howard ได้ลองใช้บริการที่ร้าน Starbucks และค้นพบความพิเศษอย่างนึงของร้าน ที่เริ่มต้นให้ความรู้เรื่องกาแฟกับลูกค้า และไม่ใช่แค่ขายกาแฟเพื่อเน้นยอดขาย แต่ต้องการให้ลูกค้าเข้าถึงศิลปะของการดื่มกาแฟ ร้าน Starbucks ยังนำเสนอกาแฟแบบ Arabica ที่ไม่ได้มีแค่ความขม แต่มีความหอม และรสชาติที่ซับซ้อน ทำให้ประสบการณ์ระหว่างลูกค้ากับพนักงานในร้านไม่ใช่แค่เพียงให้บริการอย่างเดียว Howard ยังเห็นปฎิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานที่ร้านกับลูกค้า ซึ่งประสบการณ์นี้ Howard ไม่เคยพบในร้านที่ให้บริการประเภทอื่น นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ Howard สมัครเข้าทำงานที่ Starbucks ในตำแหน่งหัวหน้าทีมการตลาด

...

Howard เห็นโอกาสจากการไปเยี่ยมชมงานที่อิตาลี และค้นพบร้านกาแฟที่นั่นให้บริการแบบ Coffee Bar ที่นำเสนอกาแฟ Arabica คุณภาพสูงและขายแบบเป็นกันเองคล้ายกับที่ Starbucks ทำอยู่ในเวลานั้น แต่ความพิเศษคือ บาร์กาแฟที่อิตาลีไม่ได้มีเพียงกาแฟดำ แต่นำเสนอกาแฟหลากหลายรูปแบบ ทั้งลาเต้ คาปูชิโน่ รวมถึงเมนูอาหารที่จะขายพ่วงด้วย จึงเกิดไอเดีย และนำกลับมาเสนอผู้บริหาร Starbucks ในเวลานั้น

ขณะที่ผู้บริหาร Starbucks ไม่ต้องการขายเมนูที่หลากหลายขึ้น เพราะกังวลเรื่องความสะอาดในร้าน Howard กลับเห็นต่าง เค้ามองว่า ถ้า Starbucks เริ่มขายเมนูกาแฟและอาหารที่หลากหลาย และนำเสนอรสชาติของกาแฟที่สหรัฐไม่เคยลิ้มรสมาก่อน รวมถึงนำเสนอภาพลักษณ์ที่ให้ Starbucks เป็นเหมือน "บ้านหลังที่สาม" ลูกค้าจะต้องชอบแน่นอน ทำให้ Starbucks เป็นแบรนด์กาแฟเจ้าแรกที่นำเสนอลาเต้ และคาปูชิโน่ พร้อมมีเมนูอาหารเสนอให้ลูกค้าในเวลาต่อมา

หลังจากที่ Starbucks เริ่มขายกาแฟที่หลากหลายมากขึ้น ปรากฎว่าผลลัพธ์ดีเกินคาด ยอดขายโตกว่าตอนแรกหลายเท่าตัว ทำให้ต่อมาผู้ก่อตั้งทั้งสามตัดสินใจ Acquired ร้านกาแฟ Pete's Coffee ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่ Starbucks ซื้อเมล็ดมาให้บริการลูกค้าต่อที่ร้าน แต่หลังจากการซื้อครั้งนั้นทำให้ร้าน Starbucks ขาดสภาพคล่อง จนเป็นเหตุให้ Jerry ผู้ก่อตั้งต้องการขายกิจการ Starbucks ออกไป

...

Howard ด้วยความที่ไม่อยากให้กิจการถูกขายไปให้กับคนแปลกหน้า และมองเห็นศักยภาพของ Starbucks จึงต้องหาเงินมาและรับซื้อหุ้น Starbucks จาก Jerry ต่อ ด้วยเงินมูลค่า 3.8 mUSD อย่างไรก็ตามเงินลงทุนดังกล่าวไม่ใช่ก้อนเล็กๆ และไม่ได้ใช้เวลาอันสั้นในการระดมทุนมา

Jerry เสนอกับ Howard โดยให้เวลา 99 วันในการรวบรวมเงินทุนให้ครบ Howard ใช้เวลาอยู่นานก็ยังหาเงินก้อนได้เพียงครึ่งเดียว และก็มีผู้ที่เสนอราคาเทียบมาอีกเจ้าที่เสนอเงินมูลค่า 3.8 mUSD เท่ากันโดยให้ทันทีและยังให้เป็นเงินสดโดยไม่ต้องตรวจสอบอะไรมากมาย ทำให้ความหวังในการได้กิจการ Starbucks ของ Howard ไกลออกไปทุกที

Howard เริ่มหมดหวัง จนกระทั่งวันนึง Howard ได้ไปเล่นบาสกับเพื่อนชื่อ Scott Greenberg ซึ่งเป็นทนายให้กับบริษัทลงทุนด้านอสังหาชื่อ Prestige Firm ที่ Seattle ซึ่งเจ้าของคือ Bill Gates Sr. (พ่อของ Bill Gates) หลังจบเกมส์ Howard ก็ได้เล่าสถานการณ์ของ Starbucks ให้กับ Scott ฟัง และ Scott แนะนำให้วันพรุ่งนี้ Howard มาที่บริษัท แล้วมาเจอ Senior Partner ของบริษัทเพื่อลองคุยเรื่องนี้

...

วันต่อมา Howard ก็ได้เข้าไปที่ Prestige Senior Partner ที่ไปเจอก็คือตัว Bill Gates Sr. เลย เมื่อเจอตัวจริง Howard ตื่นเต้นมาก เพราะ Bill Gates ทั้งตัวใหญ่ ขรึม และก็ยังเป็นอภิมหาเศรษฐีในเวลานั้น Howard ได้เล่าสถานการณ์ของ Starbucks ให้ฟัง พร้อมทั้งเล่าภาพที่ Howard เห็นถึงโอกาสของ Starbucks ว่าจะเป็นที่ที่สร้าง Human Connection ไม่ใช่แค่เสริฟกาแฟเพียงอย่างเดียว และทั้งเล่าสถานการณ์ที่ Starbucks กำลังถูกขายให้กับนักลงทุนรายอื่น และ Howard กังวลว่าจะเสีย Vision ที่ Starbucks ควรจะเป็นไป

พอฟังจบ Bill Gates ขอให้ Howard ยืนยันว่าที่เค้าพูดมาทั้งหมดเป็นจริง และขอเวลาสักหนึ่งชั่วโมงในการจัดการ

หนึ่งชั่วโมงถัดมา Bill Gates พา Howard เดินออกจากออฟฟิศไปที่อีกสำนักงานหนึ่ง ที่นั่น Howard พบกับ Sam Strum ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเศรษฐีอสังหาที่รวยติดอันดับ Top 3 ของ Seattle ในตอนนั้น ซึ่ง Sam เป็นคนที่เสนอดีล 3.8 mUSD ให้กับ Jerry เป็นเงินสด เพื่อเข้าซื้อกิจการของ Starbucks

Bill Gates เข้าไปในห้องทำงานของ Sam พร้อม Howard และบอกกับ Sam ว่า "ไม่ว่าสิ่งที่คุณกำลังจะทำกับดีล Starbucks คืออะไรก็ตาม มันจะไม่เกิดขึ้น" แล้วก็เดินออกจากห้องทันที

หลังออกจากห้อง Bill Gates บอกกับ Howard ว่า "คุณจะเป็นคนที่ซื้อกิจการ Starbucks และผมกับลูกจะช่วยคุณเอง"

Howard Schultz ได้ครอบครอง Starbucks ตอน August 1987 โดย ณ ตอนนั้นมีทั้งหมด 11 สาขา และพนักงาน 100 คน และทีมบริหาร Starbucks เดิม ทำการ Rebrand ใหม่เป็น Pete's Coffee หลังจากขายหุ้น Starbucks ให้ Howard