จะโอบกอดความรักในวันที่มันทิ่มแทงเรายังไง?

จะโอบกอดความรักในวันที่มันทิ่มแทงเรายังไง?

Catagory
Feeling
Format
Video
Publish
Published

การแสดงออกถึงความรักบางทีมันก็ไม่ง่าย เมื่อตัวความสัมพันธ์ในครอบครัวมีความซับซ้อน ในยุคที่เราเติบโตมากับครอบครัวที่พ่อแม่ต่อสู้มาอย่างยากลำบากเพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีในครอบครัว แค่ทำงานก็แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน เศรษฐกิจที่ต้องทำงานแบบปากกัดตีนถีบ ทำให้เราเห็นสภาพครอบครัวที่เป็นอยู่ดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวไว้ก็ไม่ง่ายเลย

ใน The Bear ตอน Ice Chips เล่าถึงประเด็นนี้ไว้ ผ่านเรื่องราวของนาตาลี และดอนน่าผู้เป็นแม่ ในครอบครัว Berzatto - ดอนน่าเกรี้ยวกราด เรียกว่าเข้าขั้น Bipolar คือเวลาอาละวาดคือไม่สามารถควบคุมอาการได้ ผู้กำกับส่งเรื่องราวได้ดีถึงขั้นที่ว่า ตอนดูถ้ามีซีนไหนที่มีดอนน่า คือเราจะรู้สึกกดดันจากความไม่แน่ไม่นอนในบรรยากาศเหมือนกับคนในครอบครัว Berzatto

แล้วลูกๆ ที่ถูกเลี้ยงมาจากแม่ที่เกรี้ยวกราดหละ? เค้าจะเป็นยังไง? บ้าน Berzatto มีลูก 3 คน แต่ละคนก็เหมือนมีอาการป่วยที่ต่างกัน อย่างตัวเอกชื่อ คาร์มี่ จะกดดันตัวเอง ต้องเก่งขึ้น พัฒนาขึ้น อยู่นิ่งไม่ได้ หรืออย่างนาตาลีก็มีอาการที่ต้อง please คนอื่น คือทำให้คนอื่นมีความสุข แล้วไม่ได้มองถึงตัวเอง ทำให้เป็นคนประเภทอยู่กับคนอื่นแล้วคนอื่นแฮปปี้ตลอดเวลา แต่ตัวเองอาจจะกำลังเครียดหรือวิตกกังวล

และแน่นอนว่า เมื่อแม่มีอาการ Bipolar ไม่แน่ไม่นอน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ถึงขนาดที่ว่าเคยขับรถพุ่งเข้าไปในบ้านมาแล้ว ถ้าในความทรงจำมีแต่เรื่องที่แย่ เครียด กังวล เราก็คงไม่อยากเข้าใกล้ คงตีตัวออกห่าง และนาตาลีก็เป็นแบบนั้น แม้นาตาลีท้อง และจะคลอด ก็ยังไม่เคยบอกแม่ ไม่เคยไปเยี่ยมแม่ เพราะกังวลว่าเดี๋ยวต้องเจอกันแล้วจะกระทบกับลูกในท้อง แต่ความซวยก็บังเกิด คือนาตาลีเกิดอาการปวดท้องขึ้นกระทันหันตอนอยู่ข้างนอก แล้วไม่สามารถติดต่อคนรู้จักได้เลย จนกระทั่งต้องโทรไปหาแม่ตัวเอง เพื่อมาช่วยดูอาการ

ไม่รู้จะเรียกว่าดีหรือร้าย แต่ช่วงเวลานี้ก็เป็นไม่กี่ช่วงเวลาที่นาตาลีอยู่กับแม่สองต่อสอง ใจนึงก็ไม่อยากเปิดบทสนทนาคุยอะไรกับแม่ เพราะเดี๋ยวแม่อาการคุ้มคลั่งขึ้นมา แต่เมื่อแม่ถามว่า "แม่แปลกใจนะ ที่โทรหาแม่" พร้อมทั้งบอกว่าไม่เคยรู้เลยว่าลูกท้องกำลังจะคลอด แต่ดอนน่าเองก็ไม่ได้มีอาการโกรธ หรือคุ้มคลั่งแต่อย่างใด แต่ครั้งนี้ดอนน่ากลับสงบ และเข้าใจลูกตัวเองว่าทำไมถึงไม่อยากอัพเดทอะไรให้ฟัง เพราะลูกตัวเองก็เป็นห่วงว่าอาการทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับนาตาลี จะเกิดขึ้นกับลูกของตัวเอง นาตาลีไม่อยากให้เป็นแบบนั้น

หลายครอบครัวก็เป็นแบบนี้ อาจจะไม่ถึงกับ Bipolar แต่เราเติบโตมาในครอบครัวที่มีบาดแผล ความสัมพันธ์แบบที่ไม่สมบูรณ์แบบ บริบทแบบปากกัดตีนถีบทำให้ความสัมพันธ์ของครอบครัวไม่ได้โรแมนติกเหมือนในหนังรอมคอม หลายครั้งหลายคนทะเลาะกับพ่อแม่ตัวเอง จนไม่อยากแม้จะเล่าเรื่องทั้งสุขและทุกข์ใจให้ฟัง แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเราไม่ได้ไม่รักเค้า มันก็แค่เรารู้ระยะห่าง มันห่างกันประมาณนี้แหละ ดีแล้ว ไม่ต้องโคจรมาใกล้กันมากเกินไป มันมีระยะที่พอดี

แล้วถ้าเราเลือกไม่ได้หละ ถ้าคุณต้องสร้างความรักขึ้นมาใหม่ จากความทรงจำอันแสนเจ็บปวดหละ? เราจะทำยังไง?

ในหนังสือ 'How to Hug a Porcupine' ได้เล่าวิธีที่เราจะแสดงควมรักแม้ว่าคนที่เรากดอยู่เป็นเม่นที่ทำให้เราเจ็บปวดไว้ดังนี้

  1. ความเข้าใจ : เข้าใจว่าพฤติกรรมที่ยากลำบากนั้นมักมาจากความเจ็บปวดภายใน ไม่มีใครอยากที่จะกัดคนอื่น ถ้าเค้าไม่กลัว กังวล หรือมีแผลในใจ การทำความเข้าใจว่าแต่ละคนที่แสดงออกอย่างเกรี้ยวกราด รุนแรง ด่าทอ หรือบางทีน้อยใจบ่อยๆ อาจเกิดจากบาดแผลภายในทีพวกเค้าไม่แม้แต่อยากจะคิดถึงมันก็ได้ และบางทีการไปขยี้ถามต้นเหตุ ก็ไม่ใช่ทางออก สิ่งที่ทำได้ก็มีเพียงเข้าใจ และให้เวลา ลดเพดานตัวเราลงบ้าง ให้พื้นที่คู่สนทนา เพราะบางทีเค้าก็อาจจะไม่รู้ตัวว่าเค้าเป็นอะไร
  2. ไม่ต้องพยายามเปลี่ยนแปลงใคร : เราอยู่กับคนที่ในครอบครัวมานาน เราก็รู้แล้วว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมันไม่ใช่เรื่องง่าย การที่จะทำให้ไม่เกิดการตะคอกเวลาโกรธ หรือเลิกว่าเสียๆหายๆ จากแค่อารมณ์น้อยใจมันแทบเป็นไปไม่ได้ ยิ่งพยายามจะไปดัดพฤติกรรม บางทียิ่งทำให้สาหัสกว่าเดิม บางทีเราก็แค่ต้องยอมรับ และแก้ปัญหาไปแม้ว่าใจเราจะช้ำแค่ไหนก็ตาม
  3. รับรู้ รับฟัง แต่ปล่อยวางบ้าง : บางทีหนามของเม่นก็แหลมมาก มันแหลมจนทำให้เราไม่ขอยุ่งอีกแล้ว ทั้งคำพูด อารมณ์ที่เกรี้ยวกราด ความเอาแน่เอานอนไม่ได้ บางทีมันยากเหลือเกินที่ต้องทนฟังคำด่าทุกวัน ถ้าเราเว้นระยะห่าง และพื้นที่กับคนที่เรารักไม่ได้ เราก็คงต้องวางสิ่งที่เราฟังบ้าง ไม่ยังงั้นเราก็คงกลายเป็นเม่นอีกตัวเข้าสักวัน แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก่อนที่เราจะกลายเป็นเม่น หาระยะห่างบ้าง ก็คงทำให้อะไรสงบขึ้น
  4. ล้อมรั้ว : บางครั้งเราก็ต้องล้อมรั้ว ว่าบางพฤติกรรม มาได้ถึงแค่ไหน ตรงไหนที่เรียกว่าเกินไป ถ้ามันมากเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น เรารับได้แค่ไหน การตั้งขอบเขตที่ชัดเจนเพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกทำร้าย ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความรักที่เรามีต่อเม่น แต่เป็นการทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า ก่อนที่เราจะรักกันได้ เราต้องเริ่มจากรักตัวเองก่อน ถ้าเรารักเม่นจนลืมรักตัวเอง บางทีเราอาจจะมาผิดทาง
  5. ให้เวลาตัวเอง : บางทีใช้ชีวิตกับเม่นก็ลำบาก บางคนเอาชีวิตเม่นตั้งก่อนจนเราลืมตัวเอง การทำให้เราเองไม่กลายเป็นเม่นก่อนก็เป็นเรื่องสำคัญ วางโครงสร้างของตัวเองให้แข็งแรง ก่อนที่จะเอาแรงที่เหลือในชีวิตไปให้ความรักคนอื่น ดูแลร่างกาย จิตใจ การงาน การเงินของตัวเองให้มั่นคง ก่อนที่จะไปประคองหรือกอดเม่นตัวอื่น

ตอนท้ายในระหว่างที่นาตาลีคุยกับแม่อยู่ แม่ร้องเพลงพร้อมแสดงความรักให้นาตาลี เรารับรู้ได้เลยว่ามันซับซ้อนมาก เพราะดอนน่าเองก็รู้ว่าตัวเองก็รักลูก แต่ตัวเองก็อันตรายเกินกว่าจะให้ใครก็ตามเข้าใกล้ และเมื่อสามีของนาตาลีมาถึง ดอนน่าก็ปลีกตัวออกไปเงียบๆ ฉากนี้มันบรรยายความรู้สึกยากมาก มันทั้งเจ็บและเข้าใจทั้งสองฝ่าย อยากให้ดูฉากนี้มากๆ คิดว่า Jamie Lee Curtis น่าจะได้ Emmy Awards จากตอนนี้ได้เลย

ตอนนี้นับเป็นตอนที่ชอบที่สุดใน SS3 ไปตามกันได้ใน Disney+ ฮะ