ถ้าเรามีเหลือ แค่ส่งต่อก็พอ

ถ้าเรามีเหลือ แค่ส่งต่อก็พอ

Catagory
Feeling
Format
Publish
Published

วันปิดโครงการ ChAMP Engineering กลับมาอีกครั้ง จบปีนี้เวลาสิริรวมก็ 6 ปี แล้วที่โครงการนี้ดำเนินมา ค้นพบมิตรภาพดีๆ มากมาย จากทั้งพี่ที่เราช่วยทำ เพื่อนที่เคยร่วมทำงานด้วยกัน น้องๆที่เข้ามาช่วยระหว่างทาง

งานวันนี้น้องๆ วางกิจกรรมมาตั้งแต่ช่วงบ่าย จนถึงช่วงค่ำ น้องทีมงานแพลนกันดีมาก แต่ละกิจกรรมไม่ปล่อยใครไว้ข้างหลัง และยังเชิญทุกคนที่เกี่ยวข้องกับโครงการกลับเข้าร่วมกันอีกครั้ง เราได้พบกับพี่จอย อาจารย์มาโนช และพี่เมนเทอร์รุ่นก่อนๆ มากมายในบรรยากาศแสนอบอุ่น

ในตอนท้ายของ session พี่เสได้ขึ้นมาพูดกล่าวปิด พี่เสบอกว่า ไม่จำเป็นต้องรอให้เรามี ไม่ต้องรอให้เราพร้อม เราก็สามารถช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือคนอื่นๆ ได้ โดยที่เรายังไม่จำเป็นต้องสำเร็จก่อนด้วยซ้ำ

4 ปีก่อน ตอน ChAMP Engineering ปีที่ 2 ในช่วงที่งานโครงการที่วุ่นวายกำลังเริ่มซาลง ก็ได้นัดกินข้าวกับทีม และกำลังขับรถกลับไปส่งนัย รุ่นน้องที่ห่างกันราวๆ 3 ปี ที่เข้ามาช่วยงานเหมือนเป็นทีมงานหลักในเวลานั้น

  • ในปีแรกที่นัยเข้ามาช่วยโครงการในฐานะ OC นัยยังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 ตอนต้นปี นัยถูกชักชวนจากเพื่อนที่ก็เคยเป็นเมนทีในโครงการเหมือนกัน ให้เข้ามาช่วยเหลือโครงการส่วนที่เพิ่มคนสมัครโครงการ นัยก็เข้าใจดีว่า การที่เข้ามาช่วยเหลือโครงการ หมายความว่าจะไม่ได้สมัครเข้ามาเป็นส่วนนึงของเมนทีในโครงการ ทั้งๆ ที่ก็รู้ดีว่าถ้านัยอยากสมัคร นัยได้เป็นเมนทีแน่ๆ เพราะช่วงนั้นนัยทำกิจกรรมเยอะ เรียนก็ดี ประสบการณ์ก็มีจากหลายที่

ระหว่างขับรถไปส่งนัย ก็เลยได้มีโอกาสได้คุยกับนัยถึงเหตุผลที่เข้ามาช่วยตั้งแต่ปีแรก จนทำให้ไม่ได้สมัครโครงการ

นัยบอกว่าตอนนั้นโครงการดูต้องการคน และตอนแรกก็คิดว่าจะมาช่วยสั้นๆ แต่กลายเป็นว่าช่วงปีแรก ขาที่หาน้องมาสมัครดันวิกฤติ ก็เลยเหมือนต้องช่วยดูเรื่องนี้เต็มตัว สุดท้ายเลยกลายเป็น Core Team หลักต่อเนื่องในอีก 3-4 ปีต่อมา

แต่นอกเหนือจากจังหวะบังเอิญนั้น นัยก็คิดว่าการช่วยเหลือคนอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องรอให้ตัวเองพร้อม ไม่ต้องรอให้เราประสบความสำเร็จ เราก็เริ่มได้แล้ว ทำไมต้องรอเราอิ่มก่อนเราถึงเริ่มแบ่งคนอื่น ในเมื่อเราก็เริ่มได้เลย ซึ่งนั่นก็สอดคล้องกับสิ่งที่นัยทำมาตลอด เพราะในมุมของงานประจำนัยก็อยู่ในวงการ EdTech เพราะอีกเรื่องที่นัยสนใจก็คือเรื่องการศึกษา

เป็นเรื่องแปลก นัยอาจจะมีย้ายสายงานบ้าง แต่ก็มีเหตุบังเอิญทำให้วนกลับมาที่ด้านการศึกษาตลอด อาจเป็นเพราะโชค หรือความตั้งใจ แต่มันก็ทำให้นัยได้ทั้งทำงาน และได้ตอบโจทย์เรื่องการสร้าง impact ไปพร้อมกันระหว่างที่ทำ

ปัจจุบันนี้ยังนัดเจอนัย และเพื่อนพี่น้องที่เริ่มโครงการด้วยกันมา ความสัมพันธ์ที่แต่ก่อนมีรุ่นแบ่งคั่น ตอนนี้ก็เหมือนเพื่อนไปแล้ว

พี่เสจบ session ในการให้โอวาทน้อง ด้วย 3 คำ

"Pay It Forward"

ขอให้แค่เริ่มส่งต่อสิ่งที่ตัวเองได้รับมา ให้คนอื่นๆ รอบตัว ช่วยเหลือคนอื่นตามกำลังที่ตนเองสะดวก ไม่ต้องฝืนมากเกินไป แต่ก็ไม่ต้องรอเราเต็ม เราก็ให้คนอื่นได้เหมือนกัน